ใบป่าช้าเหงา(หนานเฉาเหว่ย)🍀ใบสด ❤ปลอดสารพิษ❤100กรัม🍀🍀ช่วยลดน้ำตาลในเลือด🍀🍀
สรรพคุณของใบป่าช้าเหงา หรือ หนานเฉาเหว่ย💥
1ลดน้ำตาลในเลือด
2ลดไขมันในเลือด
3ลดน้ำหนัก ลดความดันโลหิต
4มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
5ปกป้องตับ (แต่หากเป็นโรคตับ ไม่แนะนำให้ทาน)
6ปกป้องไต (หาก GFR หรือค่าการทำงานของไตต่ำกว่า 60 ไม่แนะนำให้ทาน)
7กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
8แก้ปวด ลดอักเสบ
9ต้านเชื้อแบคทีเรีย
10ต้านเชื้อปรสิต
11เพิ่มคุณภาพของสเปิร์ม
12คนพื้นบ้านทานเพื่อแก้ไขมาลาเรีย
13คนในแอฟริกา และลิงชิมแปนซีกินเพื่อขับพยาธิ
ปริมาณของใบป่าช้าเหงาที่ควรทาน
ทานเป็นอาหาร ทานใบป่าช้าเหงาโดยนำใบมารองกระทงห่อหมกแทนใบยอ หรือยำดอกขจรใส่ดอกป่าช้าเหงา คนพื้นบ้านนิยมกินช่วงเปลี่ยนฤดู ปลายฝนต้นหนาว เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ไม่ให้เจ็บป่วย (นิยมนำมาลวกน้ำร้อนก่อนรับประทาน เพื่อลดความขม และลดฤทธิ์ยา วันละ 3-5 ใบ)
ทานเป็นยา เช่น เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือกินบำรุงร่างกาย
กินใบสด ถ้ากินใบใหญ่เท่าฝ่ามือ วันละ 1 ใบ กินบ้างหยุดบ้าง เช่น กินวันเว้นวัน หรือ 2-3 วันกินที ถ้าจะกินทุกวัน แนะนำวันละ 1-2 ใบเล็กๆ ติดต่อกันไม่เกิน 1 เดือน อาจเว้น 1 เดือน แล้วเริ่มกินใหม่
ต้มกิน ใบเท่าฝ่ามือ 3 ใบ ต้มกับน้ำ 1 ลิตร ต้มพอเดือด 3-5 นาที ดื่ม 250 มิลลิลิตร ก่อนอาหารเช้า วันละ 1 ครั้ง ตอนตื่นนอน กินบ้างหยุดบ้าง
ไม่แนะนำให้กินทุกวัน หรือกินต่อเนื่อง เพราะเป็นยาเย็น (จากการใช้ของคนไทใหญ่และทางใต้ มักกินไม่เกินวันละ 5 ใบ)
ข้อควรระวังในการทานใบป่าช้าเหงา
ห้ามใช้ในคนไข้กินยาละลายลิ่มเลือดชื่อวาร์ฟาริน เพราะอาจเสริมฤทธิ์ยา
ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หรือวางแผนจะตั้งครรภ์
ผู้ป่วยที่มีการทำงานของตับ และไตบกพร่อง (ผู้เชี่ยวชาญบางท่านแนะนำว่าหากค่าการทำงานของไต GFR น้อยกว่า 60 ไม่ควรทาน) เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลยืนยันความปลอดภัยในการใช้ในกลุ่มผู้ป่วยดังกล่าว
ไม่ควรทานเป็นยา ในผู้ที่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด คุมความดันโลหิตได้ดีอยู่แล้ว
ระวังการใช้ในผู้ป่วยเลือดจาง เนื่องจากบางรายงานพบฤทธิ์ทำให้เม็ดเลือดแดงแตก
หากมีอาการหน้ามืด เหนื่อยมากขึ้น เหงื่อออก ใจสั่น อ่อนแรง ควรหยุดทานแล้วปรึกษาแพทย์ทันที
บรรจุ 100 กรัม